"พระเทพปริยัติเมธี" พระนักพัฒนา นักปกครอง และนักการศึกษาผู้เสียสละ
    จังหวัดนครสวรรค์แห่งนี้ปรากฏนามพระดีที่ชื่อ "พระเทพปริยัติเมธี" พระมหาเถระที่ชาวเมืองนครสวรรค์ศรัทธาเลื่อมใส เป็นสมณะที่มีวัตรปฏิบัติดีงาม เปี่ยมด้วยเมตตาธรรม บำเพ็ญคุณูปการแด่คณะสงฆ์มากมาย
    อัตโนประวัติมีนามเดิมว่า สฤษฏิ์ ประธาตุ เกิดเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2501 ที่บ้านห้วยร่วม ต.ห้วยร่วม อ.หนองบัว จ.นครสวรรค์ บรรพชาเป็นสามเณรเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2514 กระทั่งอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์จึงเข้าพิธีอุปสมบท เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2521 โดยมีหลวงพ่อสวาสดิ์ วัดห้วยร่วม เป็นพระอุปัชฌาย์
    ปัจจุบันพระเทพปริยัติเมธี ดำรงตำแหน่ง เจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์ และเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ เป็นผู้อำนวยการวิทยาลัยสงฆ์นครสวรรค์
และวันที่ 5 ธันวาคม 2552 ได้รับพระราช ทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นเทพที่ พระเทพปริยัติเมธี
    พระเทพปริยัติเมธีมีความสามารถในหลากหลาย ทั้งในด้านปริยัติและปฏิบัติ ท่านมีความสามารถในการสวดพระปาติโมกข์ มีความชำนาญในการใช้คอมพิวเตอร์ มีความชำนาญในด้านนวกรรม ควบคุมการก่อสร้าง การอ่านแบบแปลนการก่อสร้าง และความสามารถในการแสดงพระธรรมเทศนา ปาฐกถาธรรม บรรยายธรรม
    ผลงานด้านการเผยแผ่พระพุทธศาสนา เจ้าประคุณได้เป็นผู้นำการจัดพิธีในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา เชิญชวนพระภิกษุ-สามเณร
และประชาชนมาร่วมพิธีในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา อบรมธรรมะให้แก่ประชาชนทั่วไป นอกจากนี้ ยังได้บรรยายธรรมะทางวิทยุกระจายเสียง
และเชิญชวนประชาชนปฏิบัติธรรม สวดมนต์ เจริญจิตตภาวนา เป็นวิทยากรบรรยายให้ความรู้ธรรมะแก่ส่วนราชการต่างๆ
    ด้านสาธารณูปการ ท่านได้ดำเนินการก่อสร้างศาลาอเนกประสงค์ อาคารอเนกประสงค์ ตั้งจุดปฏิบัติการเรียนรู้วิทยุชุมชนเพื่อการศึกษา ที่สำคัญที่สุดอยู่ในระหว่างการดำเนินการก่อสร้าง คือ โครงการก่อสร้างพุทธอุทยานนครสวรรค์ ประกอบด้วย วัดภัทรสิทธาราม วิทยาลัยสงฆ์นครสวรรค์ อาคารพระเทพญาณมุนี อาคารหอสมุดสวรรค์บรรณาคาร อาคารวิทยาลัยสงฆ์นครสวรรค์ และพระพุทธศรีสัพพัญญู เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา และเฉลิมพระเกียรติ ถวายเป็นพระราชกุศล แด่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว องค์เอกอัครศาสนูปถัมภก ด้วยกำลังบริจาคของชาวเมืองนครสวรรค์ และผู้มีจิตศรัทธาทั่วประเทศ
    สำหรับการพัฒนาวัดนครสวรรค์ ท่านยังได้ปรับปรุงภูมิทัศน์ภายในวัดนครสวรรค์ ให้ดูโปร่ง โล่ง สะอาด นอกจากนี้ ท่านให้ความเอาใจใส่บริหารจัดการดูแลคณะสงฆ์อย่างทั่วถึง ด้วยการออกตรวจเยี่ยมไปตามวัด ตามอำเภอต่างๆ จนครบทั้ง 15 อำเภอ อีกทั้งเอาใจใส่ในด้านการศึกษาของพระสงฆ์เป็นพิเศษ โดยส่งเสริมให้พระสังฆาธิการ และพระสงฆ์ในสังกัด ให้ศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี ปริญญาโท และปริญญาเอก พร้อมทั้งจัดหาทุนการศึกษาให้พระสงฆ์ทุกรูปและรับบริจาคเงินเพื่อเป็นทุนการศึกษาแก่เด็กยากจน เด็กที่มีความบกพร่องทางกายเป็นประจำทุกปี
    พระเทพปริยัติเมธีได้สร้างผลงานที่เป็นประโยชน์แก่พระศาสนา และสังคมทั่วไป ได้รับรางวัลมากมาย อาทิ พ.ศ.2547 ได้รับพระราชทานรางวัลเสาเสมาธรรมจักร พ.ศ. 2548 ได้โล่เกียรติคุณศิษย์เก่าดีเด่นมหาวิทยาลัยนเรศวร พ.ศ.2549 ได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขารัฐศาสตร์
จากมหาวิทยาลัยภาคกลาง พ.ศ.2550 ได้รับเกียรติบัตรศิษย์เก่าดีเด่น เนื่องในงาน "60 ปี อุดมศึกษา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย"
และได้รับโล่ผู้มีผลงานดีเด่นจากกระทรวงวัฒนธรรม เป็นต้น
    พระเทพปริยัติเมธีเคยปรารภว่า "การส่งเสริมความรู้ให้ทั้งบรรพชิตและฆราวาสอย่างทั่วถึง เป็นสิ่งที่ดี พระภิกษุ-สามเณรที่มีความรู้ทางธรรมจะช่วยสืบทอดพระพุทธศาสนาให้ยั่งยืน ส่วนชาวบ้านที่มีความรู้จะได้ใช้วิชาความรู้ทำมาหากินและช่วยทำให้ชาติบ้านเมืองเจริญรุ่งเรือง"
    พระเทพปริยัติเมธี เป็นพระดีที่ชาวเมืองนครสวรรค์ให้ความเลื่อมใสศรัทธา เป็นแบบอย่างที่ดีในความเรียบง่าย เป็นพระนักพัฒนา นักปกครอง และนักการศึกษาผู้เสียสละ